วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

มีงบ 1.3 ล้าน สร้างบ้านเดี่ยว รูปทรงผมรูปสามเหลี่ยม

มีงบ 1.3 ล้าน สร้างบ้านเดี่ยว รูปทรงสามเหลี่ยม 

border=0


นั่งอ่านกระทู้รีวิวบ้านหรือว่าคอนโด มานานแล้ว วันนี้กระหายจักมาอวดบ้านของตัวเองบ้างแหะๆ ระหว่างที่ทำบ้านก็ถ่ายรูปเก็บไปด้วย มันเหมือนเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นที่ดินของพ่อค่ะ พ่อยกให้แล้วให้เราสร้างเอง ตอนเห็นที่ดินเป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วกุมขมับเลย เนื่องมาจากว่ามีคนทักว่ามันทางผิดฮวงจุ้ยอย่างแรง แต่คงจักไม่ทำก็ไม่ได้ ความหมายของมันมีมากกว่าความเชื่อ เลยเข้าข้างตัวเองว่า...  เป็นคนดีเสียอย่าง ผีเผอฮวงจุ้ยคงทำอะไรเราไม่ได้มากนักหรอก   รูปบ้านหลงเก่าค่ะ ให้เขาเช่า โดนทางด่วนตัดทะลุทะลวงจากสี่เหลี่ยมเป็นสามเหลี่ยมเลย ที่ดิน 31 ตร.ม


border=0


ภายหลังจัดการคุยกับผู้เช่าให้ยักย้ายออกภายในสามเดือน ระหว่างนั้นก็เกริ่นติดต่อสถาปนิกมาออกแบบบ้านให้ ที่บ้านก็ค้านหัวชนฝาเลยว่าให้ใช้เจ้าหน้าที่จากเขต ก็เพราะว่าว่าเร็วกว่า ไวกว่า ไม่ต้องกินหลายต่อ (เข้าใจใจมั้ยคะ) แต่แบบว่าบ้านเราไม่ได้สร้างกันบ่อยๆ ใช่ว่าไม่ชอบก็ทุบทิ้งสร้างใหม่ไปเรื่อยๆ เราเลยดื้อไม่ยอม  (ลืมหมายไปว่าบ้านนี้อยู่ในที่ดินเดียวกันกับบ้านญาติๆด้วยค่ะ) แอบไปติดต่อสถาปนิกเงียบๆ พี่สถาปนิกพอได้โจทย์จากเราไปก็เอาไปออกแบบมาให้ดูก่อนว่าชอบมั้ย ตอนแรกออกมาเป็นแบบนี้เลย



แต่ด้วยเหตุว่าว่าเรามีงบในการทำบ้านที่จำกัด เลยระบุกับเขาไปว่า ไม้ที่แปะๆบ้าน หรือไม่ก็ ชอบมากๆแต่เงินสู้ไม่ไหว  ควรเอาออกซะ เพราะมีงบประมาณแค่ 1ล้าน3แสน บาทเท่านั้น กับอีกอย่างบ้านที่หันไปทางญาติมันทึบตันไปหมด ทำให้ดูขาดการติดต่อกับญาติเกินไป เลยทะเยอทะยานให้ฝั่งนั้นมีกระจก แต่คุณฮะ (สถาปนิก) เขาก็ค้านนะว่ามันจักร้อน แดดจักตรงเข้าบ้านเลย แต่...เราคิดแค่ว่าตะโกรงเห็นบ้านญาติด้วยอ่ะ เลยขอให้เขาเปลี่ยนแบบ แล้วก็ได้มาใหม่ คราวนี้เป็นรูปร่างเรียบๆ ไม่หวือ  

ปล.โจทย์ของบ้านมีดังนี้  ขอแก้ไขนิดนึงค่ะ 1ล้าน3แสน เพราะเฉพาะงบตัวบ้านไม่รวมตกแต่งนะคะ ตั้งงบเกือบไว้เท่านั้นแต่แท้จริงๆ 1.1 ล้านนะบาทค่ะ 

1.บ้านอยู่คนเดียว ขอเรียบเท่ 
2.บ้านหนึ่งห้องนอน สองห้องน้ำบน-ล่าง หนึ่งห้องรับแขก หนึ่งห้องทำงาน  
3.หน้าบ้านมีที่จอดรถ



ใหญ่ไปหรือไม่ว่าเปล่าหว่า ย่อไม่ทัน ขอโทษด้วยค่า งั้นต่อเลยแล้วกันนะคะ  เราก็ปรึกษากับทางบ้านไปว่า เอาแบบนี้เลยแหละ ชอบแล้ว เรียบๆดี อีกอย่างมันคงไม่ได้เหมือนตึกมากเกินไปก็เพราะว่าว่าคงไม่มีใครทำบ้านสามเหลี่ยม ไม่ใช่หรือกลายเป็นเท่ห์ไปอีกแบบ ก็เลยตกลงกับแบบนี้ จัดการรื้อบ้านในทันที (แน่นอนว่าต้องติดต่อกับเขตแล้วเรียบร้อย มีคนเดินเรื่องให้  เราว่าในส่วนที่เหนื่อยที่สุดคือการคุยกับเขตนี่แหละ ซึ่งกว่าจักตกลงแบบบ้านเสร็จเราแทบหมดแรงเลย



ช่วงที่ทำดันเหตุเกิดมีมรสุมเข้ามาไม่ขาดสาย เดี๋ยวก็มีฝนตกแทบทุกวัน ช่างก็เดี๋ยวติดงานตรงนั้นทีตรงโน้นที เรานี่แทบจักกรี๊ด เอาเป็นว่าการทำบ้านนี่ทำให้หมดพลังชีวิตไปกว่า 100 HP เลยทีเดียว แต่ก็แอบยอมรับว่าช่างที่ทำบ้านนี้ค่อนข้างจักสปอร์ต ใช้เหล็กอย่างหนาแบบไม่เสียดายเลย ขอแค่ให้บ้านแข็งแรง แป๊บๆก็ริเปิดฝาผนังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว  สามเหลี่ยมยิ่งๆนะไม่ได้โม้





พอบ้านเปิดมู่ลี่เป็นรูปเป็น่าง ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คงจักเป็นเรื่องของการซื้อกระเบื้องมาปูนั่นปูนี่ ตอนแรกคิดว่าจักเซฟเงินให้ได้มากที่สุด แต่พอไปเโจษจันกกระเบื้องยิ่งๆแล้วมันตื่นเต้นลมจักใส่ แพงเท่าไหร่ก็ยอม แล้วเป็นคนที่ชอบบ้านแบบปูนขัดมันมากๆเพราะมันดูโมเดิร์นแบบเด็กแนวดี  ผู้ใหญ่ที่บ้านก็ไม่เห็นด้วย (อีกแล้ว) เขาเปรยว่ามันเหมือนบ้านไม่เสร็จ  ไม่เป็นไร ฉันเสร็จของฉันคนเดียว เอาอยู่  




จักเห็นว่าแบบบ้านอยู่ตรงช่วงทางด้านขวาจักไม่ตรงกับแบบ แต่ว่านิดหน่อย  เพราะตะโกรงได้ห้องน้ำชั้นบนกว้างๆ แหะๆ งั้นขอใส่รูปภาพเลยแล้วกันเนาะ อันนี้เป็นฝั่งหน้าบ้านตรงทางขึ้นบันไดค่ะ ช่างตั้งใจทำบ้านสูงๆเลยกะว่าน้ำท่วมไม่ถึง (ซอยนี้ถนนต่ำค่ะ ฝนตกทีก็น้ำท่วมตลอด) บ้านเราเลยสูงเกือบเท่าอพาร์ตเม้นต์ของลุงอยู่แล้ว    ตรงทางขึ้นใช้กระเบื้องไม้ค่ะ มันให้ความรู้สึกอบอุ่นดี ส่วนตรงผนังก็ฉาบแบบขัดมันเลย




รูปใหญ่บ้างเล็กบ้างอย่าถือนะคะ ย่อไม่ค่อยจักเป็น เพิ่งรีวิวครั้งแรก  เอาเป็นว่าภายนอกบุกเบิกเป็นรูปเป็นร่างแล้ว  ปล.ลืมเอาภาพด้านหลังให้ดูว่ามันเป็นสามเหลี่ยมแบบไหน  


มานี้เข้ามาสู่ภายในบ้านนี้กันบ้าง ก็เพราะว่าว่าภายนอกนั้นยังคงลงมือทาสีไม่ได้เนื่องด้วยช่วงนั้นฝนตกตลอดแล้วมันชื้น ช่างก็กลัวว่าถ้าทาสีแล้วอาจจักทำให้สีพอง ก็เลยมาทำข้างในแทน ได้ยินจากช่างว่าในบรรดาทั้งหมด บันไดในบ้านนี้แพงสุดแล้ว เพราะว่าเป็นเหล็กที่ยื่นออกมาจากผนัง ซึ่งที่ทางบ้านก็ไม่ชอบอีกแล้วทำนูลว่า ส่วนคนแก่กับคนเมาเดินไม่ได้  เจ้าของบ้านเป็นคนดีไง ไม่กินเหล้าพร้อมด้วยไม่แก่ โฮะๆๆ คือใคร่ให้บ้านสวยไว้ก่อน อันตรายเอาไว้ทีหลัง  แต่ก็ออกมาสมความตั้งใจค่ะ  



ส่วนไฟที่เราได้ติดเป็นโป๊ะแทน ทำให้เขาเรียกโป๊ะไฟเหรอเปล่ากันหว่า เป็นกล่องสีดำเหลี่ยมๆน่ะค่ะ เนื่องมาจากคานมันเหลื่อมไม่เท่ากัน แล้วเราก็ใคร่ได้ได้บ้านใหม่สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ก็เลยจัดไป เดินสายไฟแบบใส่ในท่อเหล็ก แลให้อารมณ์ดิบๆ กับส่วนที่เป็นปูนขัดมันตรงคานพร้อมด้วยบางมุมของบ้าน








มาคราวนี้ก็เป็นเรื่องคราวของตัวประตูอลูมิเนียมกันบ้างแล้ว ก็เพราะว่าว่าเป็นอะไรที่ลำบากใจทั้งในกระเป๋าสตางค์มาก แต่ไม่ติดก็ไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นส่วนประกอบที่ทำให้บ้านสวย (คิดเอาเองว่าสวย) เเลื่องฟุ้งเฟื่องกเป็นอลูมิเนียมของเมืองทอง สีดำด้านค่ะ แต่ละบ้านรู้สึกจะโอเวอร์ไซส์ทั้งนั้นเลย


ส่วนที่ทาสีของมุมที่ไหว้พระค่ะ โดยตั้งใจว่าเวลาขึ้นบันไดก็เจอะเจอพระท่านพอดี ตรงนี้เป็นมุมเดียวของบ้านที่สีแรงฤทธิ์สุดชีวิตที่สุดแล้ว  

ปล.ถ่ายมุมแหงนค่ะ  



บิ๊วท์อินตั้งแต่ต้นเข้ามาแล้ว ส่วนอันนี้เป็นห้องน้นะำค่ะ หลังจากแปะกระเบื้องกับวางสุขภัณฑ์บ้างแล้ว




ส่วนอันนี้ไฟที่ชอบเปิด ชวนให้นึกถึงผับ








กลับมาแล้วค่ะ พอดีออกไปข้างนอกมา หารูประหว่างสร้างไม่เจอเท่าไหร่ด้วย  โอกาสนี้เลยเอาลงเท่าที่มีก่อนแล้วกันนะคะ เดี๋ยวมาทยอยตอบค่ะ อิอิ  อันนีจะมีบางรูปที่ถ่ายกลางวันบ้างกลางคืนบ้าง ไม่ว่ากันนะคะ   ปลเจ้าของกระทุ้ ย่อรูปไม่เป็นแน่ๆๆ ถ่ายเป็นแต่รูป   ภาพนี้ถ่ายจากมุมทางเข้าค่ะ



มุมปูนที่ขัดมันที่ว่าทำไว้เพื่อวางเปียโนไปด้วยค่ะ ส่วนโต๊ะทานข้าวครั้งนี้กลายเป็นโต๊ะที่ทำงานไปเรียบร้อยครับ ก็อยู่คนเดียว เลยหากินไปด้วยการทำงานไปด้วย ได้ดูทีวีไปด้วยเลย   
ปล.ออกจักรกๆหน่อยนะคะ ยังไม่ค่อยได้เก็บของเท่าไหร่เลย  




 อันนี้เป็นมุมห้องครัวค่ะ จริงๆ เจ้าของกระทู้ทำกับข้าวไม่เป็นเลย แต่ก็ควรที่จักมีที่เอาไว้ล้างจาน วางเตาไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน (สรุปมีครบ) ตรงที่วางก็ก่อครัวปูนเป็นปูนขัดมันเช่นกันค่ะ เพื่อให้เข้ากับบ้าน เเลื่องลือกโทนเป็นสีไม้เพื่อให้บ้านอบอุ่นที่สุด แท้ๆบ้านมันเป็นแนวโมเดิร์นลอฟท์ มันดิบมากอยู่แล้ว เลยเสริมไม้เข้าไปเสียหน่อยจะได้ไม่ดิบมากจนเกินไป



 ส่วนอันนี้เป็นมุมโปรดค่ะ ตอนแรกเลยคิดว่าจะทำเป็นอิฐส้มดีมั้ย เป้นกระเบื้องดินเผาน่ะค่ะบ้านจักได้ดูดิบๆฝรั่งๆ แต่ก็ใคร่มีที่เอาไว้วางกีต้าร์ เเละเป็นจุดรวมสายตาเวลาเพื่อนเเขกไปใครมา เลยติดเอลวิสเสียเลย  พร้อมทั้งแน่นอน เปิดไฟสีฟ้าใต้บันไดด้วย เด่นซะ





ในมุมเพราะว่ารวมบ้านทั้งหลัง เหล่าญาติๆต่างชอบห้องน้้ำมุมชั้นล่างที่สุด เขาบอกให้ทราบว่า นี่ก็เหมือนทาสีเสร็จแล้ว



มองมุมตรงอ่างล้างมือค่ะ ก็หิวจะให้มันดูอบอุ่นกับออกเป็นไทยนิดๆ

ปล.ภาพติดเหเล่าลืองหน่อยนะคะ



มองมาจากด้านหลัง จักออกเป็นแบบนี้  คือบ้านมันเป็นสามเหลี่ยมแหลมด้วยน่ะค่ะ เลยจะมีมุมกว้างมุมและแคบหน่อย






 ส่วนตรงปลายเตียงใช้วอลเปเปอร์ลายตึกแบบเดียวกับตรงตู้โทรศัพท์ค่ะ จักได้เข้ากัน ซึ่งดูๆไปมันก็เหมาะดี แน่แท้ๆติดไฟไว้ตรงนั้นเพื่อที่จักได้นั่งเข้าไปอ่านหนังสือได้ด้วยค่ะ  

ปล.ไฟบ้านนี้มากหลายมากด้วย ก็เพราะว่าว่าชอบเล่นไลท์ติ้ง มันจึงให้ความรู้สึกต่างกันดีระหว่างไฟสีฟ้ากับสีเหละบืองน่ะค่ะ เพื่อนแย้มว่าบ้านเหมาะแก่การทำลูกตอนเปิดไฟสีฟ้า 




อันนี้เป็นอีกภาพหนึ่งตอนนั้นมุ่งหมายทำปูนขัดมันทั้งหลัง แต่ที่บ้านค้านอย่างแรงเขาเผยว่ามันดิบเกินไปแล้ว แต่ส่วนหนึ่งแอบชอบ เลยขอให้ทางสถาปนิกลองทำภาพจำลองมาให้ดูหน่อย ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ






บ้านพฤกษา-ซ.แก้วอินทร์-บางใหญ่





บ้านพฤกษา (ซ.แก้วอินทร์-บางใหญ่) ที่สุดของทำเลคุณภาพ ให้ คุณใช้ชีวิต แบบ เวสเกต์ สิ่งความอำนวยมากมาย อาทิเช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง,เซนทรัล เวสเกต์,Mega บางใหญ่ พร้อมกับเดินทางสะดวกสบายด้วย ทางด่วนศรีรัช - วงแหวนฯรอบนอก ให้คุณได้เชื่อมต่อ ชีวิตในเมืองได้อย่างง่ายดาย












วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทำบ้านใหม่ งบประมาณ หกแสนห้า บาท

สร้างบ้านใหม่  งบ หกแสนห้า บาท


สวัสดีชาวชายคาทุกคนครับ โปรยยิ้มรอบห้อง
วันนี้ฤกษ์งามยามดี เราขอมารีวิว หรืออวด บ้านให้ทุกคนได้ชมกันหน่อย
กว่าจักได้บ้านมาเป็นแบบนี้นี่ เหนื่อยกันพอสมควรเหมือนกัน
ทั้งออกแบบ กับเขียนแบบ กำกับก่อสร้าง กับทำตามขั้นตอนที่ยากที่สุดคือ Fight กับพ่อแม่
เพราะว่าผู้ใหญ่ คนแก่ๆ เค้าไม่เข้าใจบ้านเดี่ยวนสไตล์ Modern Loft
อารมณ์ก็คาดคะเนแบบ ทำบ้านเฮียอะไรของมะรึงกัน มีแต่ปูนดิบๆ สีก็ไม่ทา
แต่ในที่สุดเราก็อาจจักตบตีจนชนะมาได้





เริ่มกันก่อนสักนิดนึงว่า ความเป็นแน่แท้แล้วบ้านหลังนี้ไม่ได้ตั้งใจจักสร้างตั้งแต่แรก
แต่ว่าเผอิญว่าคุณแม่คิดจักทำหอพัก แล้วซึ่งมันก็ไม่จำเป็นต้องมี Office เล็กๆ ไว้เฝ้า
ก็เลยตัดสินใจกันทำเป็นแบบ Home Office แล้วให้เราได้มานอนเฝ้าที่นี่เลยละกัน
มันจึงกลายเป็นบ้านหลังอาจเล็กไป ขนาด 72 ตารางเมตร 1 นั่งเล่น กับ 1 ห้องน้ำ กับ  1 ห้องนอน แบบสไตล์คอนโดใน กทม



สาเหตุที่นำเอาต้นไผ่มาลงก็คือ ตัวหน้าบ้านรับแสงแดดช่วงบ่ายได้ดีแบบเต็มๆ
พยายามกลับแปลน จัดวางผังใหม่ก็แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ศักยเลี่ยงได้เพราะที่ก่อสร้างไม่เอื้ออำนวย
กระจกด้านหน้าบ้านเราจึงใช้กระจกสะท้อนแสง เป็นSolar Tag ทั้งแผง + ม่านม้วนกันร้อน พร้อมทั้งเอาต้นไผ่มาลง
ผลที่ได้รับ คือ กันแสงแดดได้ 100เปอ  แถมแสงก็ไม่ทำเป็นลอดเข้าบ้านได้อีกด้วย ถึงแม้วว่าจักเปิดม่านขึ้นก็ตาม
แต่ ว่า กันความร้อนไม่ได้

บริเวณแถวทางเดินเข้าหน้าบ้าน ระหว่างต้นไม้ไผ่กับตัวบ้าน
ความเป็นแท้ในช่วงราวๆภายหลังบ่ายสองเป็นต้นไป มาในส่วนตรงนี้จักร่มรื่นมาก
ยิ่งถ้ามีลมพัดด้วยแล้ว เย็น สบายมากๆ เลย
กำลังตั้งต้นคิดจะหาเก้าอี้หวายมาวางสักตัวเอาไว้ให้นอนอ่านหนังสือ



เดินลัดเลาะมาด้านที่ติดถนน
เอาหญ้าลงปลูก แต่คิดผิดมากที่เอาหญ้าญี่ปุ่นลง ก็เพราะว่าโตไวมาก
ในในเวลานี้มันจักกลายสภาพเป็นป่าดิบชื้นย่อมๆ นี่มักจะน่ากลัวอยู่ว่าตราบไหร่พวกงูจักเลื้อยเข้าบ้าน 

ที่เห็นไกลๆ นั่นเป็นซุ้มนั่งชิลข้างบ้าน
เอาไม้ที่เหละบือมาจากการกรุแผงเข้ากับประตูมุมหน้าบ้านมาต่อกันแล้วทำเป็นซุ้มด้วย





ตั้งแต่ได้ทำซุ้มนี่เสร็จก็ได้มานั่งเล่นมักไม่ถึง 5 ครั้ง
กลางวันมันก็ไม่ร้อน กลางคืนก็ยุงมาก นานทีๆ เพื่อนมาเที่ยวบ้านถึงจะมานั่งชิลกันที
เป็นซุ้ม มากินเหล้า ถกปัญหาสังคม



ชุดเก้าอี้หวายเทียมนี้ได้มาจาก Homepro
สนนมูลค่า 2,790 บาท​ ถ้าสมมตจำไม่ผิด
ส่วนดอกไม้ที่มักจักพันๆบ่อยๆ เราก็อยู่นี่ก็ต้นอะไรจำไม่ได้แล้วเหมือนกัน
แต่ที่แน่ๆ คือว่าต้นมันโตเร็วมาก ก็เพราะว่าชอบแสงแดด และพันเลื้อยได้สวยมาก


เอาล่ะ พาชมรอบตัวบ้านแล้ว
เรามาเปิดประตูเข้าบ้านกันเลยดีกว่า



เข้าประตูหน้าบ้านมาก็จักเจอโต๊ะทำงาน
ที่ซึ่งก็เป็นส่วนเคาน์เตอร์เอาไว้เวลามีคนมาติดต่อทำเรื่องหอพักด้วย
เราเลยมุ่งเน้นดีไซน์ให้มันเป็นโต๊ะยาวติดริมกระจกไปด้วยเลย
เวลาที่นั่งทำงานเพลินๆก็เปิดม่านม้วนขึ้น ซึ่งดูสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าไป ทำงานไป



ถัดจากโซนทำงานก็จักเป็นโซนทีวีแล้ว
ที่ซึ่งโซนนี้เป็นโซนที่สะอาดที่สุดในบ้านก็เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้งาน
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบดูทีวีอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าจักชอบดูหนัง แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาได้มาส่องนั่งดูเท่าไหร่
มันเลยเป็นโซนที่ถูกใช้งานน้อยที่สุด ส่วนใหญ่จะนั่งหน้าคอมมากกว่า










ชั้นแขวน DVD ติดผนัง
ไปเจอแบบมาจากในเว็บไซต์ ซึ่งแบบจริงๆ มันเป็นชั้นวางหนังสือใหญ่มาก
เห็นแล้วชอบเลยเอาแบบมานั่งแกะ บุกเบิกกำหนดขนาดใหม่ แล้วให้ที่บ้านทำให้ ที่บ้านทำเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว
ก็ถือว่าโชคดีไปนะ ที่รอบรู้สั่งทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้เองทั้งบ้าน





ถอยหลังมาอีกนิดก็เป็น Pantry เล็กๆ แล้ว
ความจริงก็ไม่ได้ทำอาหารกินเองสักเท่าไหร่ เพราะว่าปกติกลับไปกินข้าวบ้าน
ก็มีทำนู่นทำนี่เล็กๆ และ น้อยๆ ไปกับตามประสาอยู่คนเดียว เลยไม่ได้ทำครัวใหญ่มาก
โต๊ะกับอาหารก็ทำเป็นโต๊ะเล็กๆ มีนั่งได้แค่ 2 คนไม่เผื่อแขกไปใครมาทั้งนั้น
ถ้ามีเพื่อนมาเทียวบานตะไทๆ ก็จะปูเสื่อนั่งบนพื้นกันไป ฮ่าๆ


โซนครัวใกล้ๆ อีกมุมนึง 
พวกตู้แขวน บานตู้ก็ไว้ทำเองที่บ้านหมดเลยด้วย ในความจริงตรงนี้สีไม่สวยเท่าไหร่ ลายไม้หน้าบานก็ไม่สวย




บ้านหลังนี้มีแปลนง่ายๆ แบ่งเป็น 2 ท่อน ครึ่งๆกลาง
ครึ่งแรกเป็นโซนแถวหน้าบ้านเรา ทำงาน แล้วรับแขก ครัว
ครึ่งหลังเป็นห้องนอน + ห้องน้ำ


ภาพนี้เป็นมุมส่วนกว้างโซนหน้าบ้านทั้งหมด นั่งบนเคาน์เตอร์ครัวถ่าย




นี่เลยอย่างแรกที่เจอ, ประตูห้องน้ำ
ด้วยความที่ตัวบ้านหลังนี้เป็นปูนเปลือเลื่องยทั้งหลัง มันอาจดูดิบมากไป
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นนั้น แล้วรวมไปถึงบานประตูด้วย เลยใช้ไม้มาทำทั้งหมด มันจะได้ช่วย Break ความแข็งกระด้างของปูน


น้องชายวาดให้เป็นของขวัญวันเกิด
เพื่อให้เป็นความขลังจึงเอามาแขวนไว้แถวหน้าห้องน้ำมันซะเลย
จะได้รับช่วยแรงกระตุ้นต่อมขับถ่ายให้มุ่งทำงานได้ดียิ่งขึ้น



กระเบื้องในห้องน้ำก็ออกแบบเอง
มันเลยดูแหว่งๆ ขาดๆ จนเกินไป ไม่สมประกอบอยู่บ้าง แต่ก็โอเคนะ

ด้วยความที่ได้ลงมือเขียนแบบเอง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เรียนจนจบทางด้านสถาปัตย์มาเพราะตรง
ทำให้แปลนห้องน้ำเกิดความผิดพลาด มันเลยเหเลื่องลือพื้นที่แค่นิดเดียว
ต้องมานั่งมองแล้วก็ออกแบบการจัดวางสุขภัณฑ์ข้างในใหม่ทั้งหมดด้วย
ให้ช่วยเหลือเลื่องเก็บเกี่ยวพื้นที่ให้มากที่สุดพร้อมทั้งไม่ทำให้กับห้องน้ำดูแคบและอึดอัด
ผลงานจึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น


พอได้คำนวณพื้นที่ที่ตู้อาบน้ำจักต้องมาใช้ปุ๊บ ปรากฏว่าเหเลื่องพื้นที่ด้วยว่าอ่างล้างหน้าแค่นิดเดียว
งานเข้าเลยทีนี้ ต้องมาออกแบบโซนนี้ใหม่อีกรอบ อ่างล้างหน้าก็ต้องเเอิกเกริกกแบบที่ใช้พื้นที่น้อยที่สุด
ตู้อาบน้ำก็เปลี่ยนเป็นแบบประตูโค้ง เพราะจะได้ทำให้ห้องน้ำดูไม่คับแคบ

สุดท้ายเลยให้ที่บ้านทำเคาน์เตอร์วางอ่างล้างหน้าแบบพอดีอ่างขึ้นมา 
วางได้แบบพอดีเป๊ะ อ้าว....แล้วของใช้ต่างๆ พวกแปรงสีฟันล่ะ







ห้องนี้มีนอนมีเท่านี้แหละครับ ฮ่าๆ เพราะว่าได้เอาไว้แค่ซุกหัวนอนครันๆ
ตอนแรกกลางวันนั่งทำงานก็อยู่โซนหน้าบ้านหมดเลย เพราะด้วยห้องนอนเลยไม่รู้จะทำกว้างไปทำไม


โต๊ะหนังสือนั่นก็เพิ่งจักได้ยกมาวาง เพราะโหมโรงรู้สึกมันโล่งไปนิด ยกมาวางเฉยๆ แบบไม่ได้ใช้งานเลย
ห้องนอนจะตีฝ้าขึ้นมาด้วย เพราะว่ากันความร้อน ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่


ห้องนอนยืนถ่ายจากปลายเตียง
รูปวาดไว้บนหัวเตียงก็เป็นฝีมือน้องชายอีกเช่นเคย 










ทั้งบ้านหลังอยู่กันแค่นี้นะแท้ๆ รวมแบบแปลนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
ถ้าเกิดมีขโมยเข้าบ้านทีก็ยกเค้าไปได้ทั้งหลังเลยแหละจริงๆๆ







บ้านพฤกษา-ซ.แก้วอินทร์-บางใหญ่





บ้านพฤกษา (ซ.แก้วอินทร์-บางใหญ่) ที่สุดของทำเลคุณภาพ ให้ คุณใช้ชีวิต แบบ เวสเกต์ สิ่งความอำนวยมากมาย อาทิเช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง,เซนทรัล เวสเกต์,Mega บางใหญ่ กับเดินทางสะดวกสบายด้วย ทางด่วนศรีรัช - วงแหวนฯรอบนอก ให้คุณได้เชื่อมต่อ ชีวิตในเมืองได้อย่างง่ายดาย